Lifestyle

4 ปัญหาเกี่ยวกับการศึกษาสำหรับเด็กๆ

ว่ากันด้วยเรื่องของเกี่ยวกับ “เด็กเล็ก” แล้วนั้น เรื่องของการสื่อสาร พัฒนาการและการศึกษาเป็นอะไรที่สำคัญเอามากๆ เลยก็ว่าได้ครับ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งจะกำหนดอนาคตของเด็กๆ เลยก็ว่าได้ครับ เพราะหากว่ารากฐานไว้ดี อะไรๆ ก็จะดีตามไปด้วยครับ วันนี้เราจะขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “4 ปัญหาเกี่ยวกับการศึกษาสำหรับเด็กๆ” ที่น่าสนใจกันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ

การศึกษาสำหรับเด็กควรเป็นอย่างไร?

ขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องของการศึกษาแล้ว สำหรับเด็กๆ ควรที่จะต้องเริ่มจากรากฐานทางด้านของภาษาและความเข้าใจแบบง่ายๆ โดยเน้นภาพและท่าทางการเคลื่อนไหวเป็นหลัก จะทำให้เด็กๆ สนใจและมีสมาธิกับการเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี เช่น การฝึกการเคลื่อนที่หรือท่าทางต่างๆ ไปพร้อมกับภาษาที่สองจะช่วยได้เป็นอย่างดีเลยหล่ะครับ

การจัดการเรียนรู้ ให้เด็กฉลาดรอบด้านทำอย่างไรได้บ้าง?

เราสามารถส่งเสริมพัฒนาการของเด็กๆ ได้เป็นข้อๆ ดังต่อไปนี้

เรื่องของการช่วยเหลือตัวเองตามวัย เด็กๆ จะเก่งการขีดเขียน อ่านได้นั้น จะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าเด็กกินข้าวเองไม่เป็น แต่งตัวเองไม่ได้ ฉะนั้นทักษะการช่วยเหลือตัวเองขั้นพื้นฐานที่เด็กปฐมวัยทุกคนควรทำได้ก่อนอายุ 5 ปีขึ้นไป

–          หยิบจับอาหารเข้าปาก และใช้ช้อน-ส้อมได้ตามวัย

–          ล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ แต่งตัว ติดกระดุม รูดซิป ตามวัย

–          การควบคุมการขับถ่ายเมื่อพร้อม

เรียนรู้ผ่านการเลียนแบบและลงมือทำ การเรียนรู้ที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก ๆ คือการได้ดูแม่แบบในชีวิตจริงและการสอนผ่านการลงมือปฏิบัติไปพร้อมกับการได้ลงมือทำกับคุณครู ไม่ใช่ผ่านการฟัง หรือ จากการดูในสื่อหน้าจอต่าง ๆ การได้ลงมือทำในชีวิตจริง เด็กจะมีสมาธิ และจดจ่อได้ดีกว่านั้นเองครับ

ควรใช้เครื่องมือช่วยในการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาพประกอบสำหรับการเรียนรู้ เสียงดนตรีต่างๆ ที่น่าสนใจเพื่อชี้นำเด็กๆ ให้ได้สนใจในการเรียนรู้ จะทำให้เด็กๆ เรียนรู้ได้เป็นอย่างดีเลยหล่ะครับ

หลักการเรียนรู้ด้วยตนเองที่เด็กแลผู้ใหญ่สามารถนำไปใช้ได้

สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ จัดแจงสร้างบรรยากาศให้บ้านเต็มไปด้วยหนังสือ พร้อมกับมีสื่อการเรียนรู้จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ปราศจากเสียงรบกวน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ จัดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งบรรยากศเหล่านี้ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเองได้เป็นอย่างดีเลยหล่ะครับ

ต่อยอดความรู้ เมื่อได้เรียนรู้เรื่องใดๆ ก็ตาม ชวนเด็กๆ คิดต่อ เช่น หากเรียนรู้เรื่องการเกิดฝน อาจต่อยอดไปสู่การทำความเข้าใจเรื่องการเปลี่ยนสถานะของสสาร จากของแข็งเป็นของเหลว นำความรู้นี้ มาสู่การทำอาหาร เช่น ผลไม้เป็นของแข็ง เมื่อนำไปปั่นผสมน้ำจะกลายเป็นของเหลว แต่เมื่อนำเข้าช่องฟรีซ ก็กลายเป็นไอศครีมผลไม้ ซึ่งเป็นของแข็ง และในการทำอาหารนี้เด็กๆ ยังได้เรียนรู้เรื่องการคำนวณ ชั่ง ตวง วัด เป็นต้น

แล้วภาษาที่สองสำคัญอย่างไร?

การเรียนรู้และการทำงานของสมองจะได้รับการพัฒนามากกว่าผู้ศึกษาภาษาเดียว มีหลักฐานเพิ่มเติมทางวิชาการที่ชี้ให้เห็นว่า การเรียนรู้ภาษาที่ 2 จะช่วยพัฒนาระดับของศักยภาพของสมองให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนหนุ่มสาว การเรียนภาษาเหล่านี้ หากไม่นับโอกาสในการทำงาน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้สามารถทำงานได้เก่งกว่า จากการทดสอบพบว่าคนที่เรียนภาษามากกว่าหนึ่ง จะมีสมาธิและความสนใจได้ดีกว่าคนที่เรียนแค่ภาษาเดียว

4 ปัญหาที่ส่งผลต่อาการศึกษาของเด็กๆ

●เด็กๆ สมาธิสั้น เนื่องด้วยสิ่งรอบข้างที่เป็นแหล่งความบันเทิงของเด็กๆสามารถที่จะดึงสมาธิของพวกเขาได้ตลอดเวลา จึงทำให้เราต้องอาศัยปัจจัยและสิ่งต่างๆ เพื่อดึงความสนใจของเด็กๆ

●เด็กๆ ติดโทรศัพท์ ซึ่งเป็นปัญหาที่กำลังประสบการในปัจจุบัน เพราะเดี๋ยวนี้โทรศัพท์ทำได้แทบทุกอย่างเลยก็ว่าได้ จะเป็นปัญหาและทำให้เด็กก้าวร้าวอีกด้วย

●การพัฒนาทางด้านสังคมและสติปัญหาช้า เด็กสมัยนี้ประสบปัญหาเกี่ยวกับการพัฒนาด้านความรู้ทั้ง EQ และ IQ เป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้เด็กไม่อยากที่จะเรียนแต่อยากที่จะเล่นเพียงอย่างเดียว

เกิดปัญหาทางด้านความจำ นอกจากเรื่องเด็กสมาธิสั้นแล้ว ยังมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของความทรงจำที่สั้น เพราะด้วยแอฟต่างๆ ที่ส่งเสริมทำให้เด็กโฟกัสกับอะไรนานๆ ได้นั้นเองครับ

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “4 ปัญหาเกี่ยวกับการศึกษาสำหรับเด็กๆ” ที่เราได้นำมาฝากท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ ท่านกันนะครับ